ณ นครใต้บาดาลอันเป็นเขตปกครองของ พญานาคราช พระองค์ทรงมีพระธิดาสิริโฉมงดงามองค์หนึ่งนามว่า สมุทมาลา เมื่อถึงคราวจะได้คู่ครองธิดาพญานาคเกิดนึกอยากจะขึ้นไปเที่ยวเล่นบนเมืองมนุษย์ พญานาคราชจึงสั่งให้เหล่านางนาคพี่เลี้ยงคอยดูแลพระธิดา อย่าให้คลาดสายตา แต่ด้วยความดื้อรั้นนางสมุทมาลาก็แอบหนีขึ้นไปบนโลกพิภพจนได้ขณะที่ธิดาพญานาคราชซึ่งแปลงร่างเป็นหญิงสาวกำลังเดินเล่นเที่ยวอยู่ในป่า รุกขเทวดาเห็นความงามของนางก็มีใจ จึงจำแลงกายเป็นมานพรูปงามมาหาจนได้นางเป็นชายา ครั้นพระอินทร์ทราบเรื่องเห็นว่ารุกขเทวดาเอาแต่มัวเมาในความรักไม่ทำหน้าที่พิทักษ์ป่าตามที่ได้รับมอบหมาย จึงเรียกตัวไปสอบสวนและลงโทษ ส่วนธิดาพญานาคเมื่ออยู่คนเดียวตามลำพังก็เกิดความหวั่นกลัว ครั้นจะกลับไปสู่เมืองบาดาลก็เกรงว่าพระบิดาจะลงโทษเพราะบัดนี้ตนกำลังตั้งครรภ์ นางตัดสินใจสำรอกลูกในท้องออกมาเป็นไข่ฟองหนึ่ง พร้อมพ่นพิษนาคคุ้มครองไว้ไม่ให้ไข่ถูกทำลาย แล้วใช้ผ้าสไบของตนห่อไข่ไว้พร้อมกับนำไปซุกไว้ในพงหญ้าริมหนองน้ำโดยถอดแหวนวิเศษไว้ให้ลูกด้วย จึงจำต้องกลับไปอยู่ในบาดาลตามเดิม
ยังมีคางคกใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งกำลังหิวจนตาลาย เห็นฟองไข่ของธิดาพญานาคก็รีบกลืนลงท้องทันที พิษของพญานาคทำให้คางคกตัวนั้นถึงแก่ความตาย เป็นเวลาเดียวกับที่ไข่ครบกำหนดคลอด พอเปลือกไข่แตกออกภายในก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนหนึ่ง ซึ่งได้อาศัยอยู่ในซากคางคกนั้นเรื่อยมาด้วยเข้าใจว่าเป็นแม่ของตน
วันหนึ่งสองตายายมาช่วยกันใช้สุ่มหาปลาในหนองน้ำตั้งแต่เช้าจรดเย็นพบแต่ซากคางคกตัวเดียวก็โยนทิ้งไป เด็กหญิงที่อาศัยอยู่ในซากคางคก จึงขอให้ตายายนำตนไปเลี้ยงไว้ สองตายายเกิดเมตตาสงสารเห็นว่าซากคางคกนั้นพูดภาษาคนได้ก็นำกลับบ้านไปด้วยวันนั้นสองตายายไม่มีอาหารเย็นต่างชวนกันไปเก็บผักจากข้างรั้วหมายจะนำมาต้มแกงกินตามมีตามเกิด เด็กหญิงลูกธิดาพญานาคจึงออกจากซากคางคก ใช้แหวนวิเศษที่แม่ทิ้งไว้ให้เนรมิตข้าวปลาอาหารล้วนแต่ของดีๆ ขึ้นมามากมาย แล้วรีบกลับเข้าไปหลบอยู่ในซากคางคกอย่างเดิม สองตายายนึกแปลกใจว่าใครนำอาหารมาให้ วันรุ่งขึ้นได้แกล้งทำทีออกไปหาผักหาปลา แล้วย่องกลับมาแอบดูจึงรู้ความจริง ต่างช่วยกันอ้อนวอนให้หลานออกจากซากคางคกมาอยู่ข้างนอก แต่เด็กหญิงลูกธิดาพญานาคยังอาลัยซากคางคกขอกลับไปอาศัยอยู่อย่างเดิมตายายก็ตามใจ